รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นแตกต่างกันอย่างไร

11 พฤษจิกายน 2566

รี ไฟแนนซ์ กับ รี เท น ชั่ น

ในการที่จะลดหนี้บ้านมักจะมี 2 วิธีที่สามารถทำได้นั่นก็คือ รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่น สำหรับรีไฟแนนซ์ทุกคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วว่าคืออะไร แต่ถ้าหากเป็นรีเทนชั่นจะหมายถึง ขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม

สินเชื่อเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยมักใช้ระยะเวลาในการผ่อนนานโดยระยะเวลามักจะอยู่ที่ 30 – 40 ปีแล้วแต่ธนาคาร โดยผู้กู้ซื้อบ้านหลายคนจึงมีวิธีจัดการหนี้ที่แตกต่างกันไปเพื่อที่จะลดภาระดอกเบี้ย หรือค่าใช้จ่ายให้น้อยลง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สงสัยว่า การย้ายธนาคารใหม่อย่างการรีไฟแนนซ์ กับการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิมอย่างรีเทนชั่นแบบไหนดีกว่ากัน รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นแตกต่างกันอย่างไร และหาก retention แล้ว refinance ได้ไหม บทความนี้มีข้อมูลเปรียบเทียบมาฝากกันให้เห็นชัดๆ

 

เนื้อหาน่าสนใจ

 

ทำความเข้าใจ รีเทนชั่น (Retention) คืออะไร

รีเทนชั่น คือ การขอเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิม โดยสามารถต่อรองขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิมได้ ทั้งการ Retention บ้าน และคอนโด ซึ่งธนาคารจะทำการตรวจสอบประวัติการผ่อนของผู้กู้เพื่อพิจารณาก่อน ว่าจะสามารถลดดอกเบี้ยที่จำเป็นจะต้องจ่าย หรือมีเงื่อนไขตามแต่ละธนาคารที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการจะจ่ายเงินผ่อนกับธนาคารเดิมนั่นเอง

 

ภาพถ่ายโดย RDNE Stock project: https://www.pexels.com/th-th/photo/8293700/ 

ทำความเข้าใจ  รีไฟแนนซ์ (Refinance) คืออะไร

รีไฟแนนซ์ คือ การลดอัตราดอกเบี้ย ใช้ในกรณีที่ผู้ซื้อบ้านหรือคอนโดทำการผ่อนชำระครบ 3 ปี แล้วอัตราดอกเบี้ยเกิดลอยตัวเพิ่มสูงขึ้น ผู้กู้ต้องผ่อนชำระในจำนวนที่มากขึ้น การรีไฟแนนซ์ จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ย ให้ผู้กู้ผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยและค่าผ่อนบ้านที่น้อยกว่าต่อเดือน ซึ่งวิธีการนี้ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะสามารถดำเนินการได้งาย และทางตัวสถาบันการเงินหรือแม้แต่ตัวเราที่ผ่อนต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

 

ภาพถ่ายโดย Kindel Media: https://www.pexels.com/th-th/photo/7979604/ 

รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นแตกต่างกันอย่างไร

รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่น มีความแตกต่างกัน โดยรีไฟแนนซ์ จะเป็นการนำที่อยู่อาศัยของผู้กู้ที่กำลังอยู่ในช่วงผ่อนชำระ มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งผู้กู้สามารถใช้เพื่อขอสินเชื่อใหม่เพื่อปิดหนี้ในส่วนยอดเงินกู้ที่ยังเหลืออันเดิมได้ ด้วยเหตุนี้เอง การรีไฟแนนซ์จึงทำให้หนี้ของผู้กู้กับเจ้าหนี้อย่างธนาคาร หรือสถาบันการเงินเก่าที่เราขอกู้นั้นยุติลง กลายเป็นหนี้ใหม่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่เกิดขึ้นแทนนั่นเอง

 

ส่วนรีเทนชั่น นั้นจะเป็นการติดต่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมที่เงื่อนไข รายละเอียดต่างๆ จะมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน แนะนำว่าให้คุณลองศึกษาทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็น รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายใหเมากที่สุดจะเป็นการดีอย่างยิ่ง

 

ภาพถ่ายโดย Kindel Media: https://www.pexels.com/th-th/photo/7579143/ 

เปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อยของ รีไฟแนนซ์และรีเทนชั่น

จุดเด่นรีเทนชั่น

รีเทนชั่น มีจุดเด่นตรงที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ผู้กู้มากกว่า เพราะรีเทนชั่น เป็นการดำเนินธุรกรรมการเงินกับธนาคารเดิม ซึ่งแน่นอนว่าธนาคารเดิมจะมีเอกสารและข้อมูลของผู้กู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมเอกสารใหม่ ผู้กู้แค่ต้องเตรียมสัญญาเงินกู้ ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา และบัตรประชาชนของผู้กู้เท่านั้น

โดยระยะเวลาในการรีเทนชั่นทางธนาคารจะใช้การพิจารณาไม่นาน เนื่องจากมีประวัติการผ่อนชำระของผู้กู้อยู่แล้วนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น การทำรีเทนชั่น ยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการทำรีไฟแนนซ์อีกด้วย ซึ่งธนาคารบบางแห่งคิดค่าธรรมเนียมสินเชื่อแค่ 1% ของวงเงินกู้เท่านั้น อย่างไรก็ดี ถ้าผู้กู้มีทประวัติการผ่อนชำระที่ไม่ดีอาจทำการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิมไม่ได้

 

จุดด้อยรีเทนชั่น

จุดด้อยของ รีเทนชั่น คือ ธนาคารเดิมอาจลดดอกเบี้ยให้ไม่มากเท่ากับการ รีไฟแนนซ์

 

ภาพถ่ายโดย Kampus Production: https://www.pexels.com/th-th/photo/8815877/ 

 

จุดเด่นรีไฟแนนซ์

จุดเด่นของ รีไฟแนนซ์ คือ สามารถขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ต่ำกว่าสินเชื่อกู้บ้านใหม่ได้ ยิ่งผู้กู้มีประวัติการผ่อนชำระที่ดีจากธนาคารเดิมมาเป็นลูกหนี้ของธนาคารใหม่ การรีไฟแนนซ์อาจจะคุ้มค่ากว่าหากเปรียบเทียบกับการขอลดดอกเบี้ยธนาคารเดิม

จุดด้อยของรีไฟแนนซ์

จุดด้อยมักจะเป็นเรื่องของการเสียเวลาในการคว้านหาว่าสามารถรีไฟแนนซ์กับธนาคารไหน หรือสถาบันการเงินใดได้บ้าง ซึ่งในจุดนี้จะต้องใช้เวลา และศึกษาเงื่อนไขของแต่ละธนาคารใหม่หมด พร้อมเปรียบเทียบเรื่องของค่าผ่อน รวมทั้งดอกเบี้ยใหม่เองอีกด้วย

 

สรุปแล้ว รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่น ควรเลือกแบบไหนถึงจะดี

การรีเทนชั่น จะให้ความสะดวกสบายในการขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มากกว่า ส่วนการ รีไฟแนนซ์ นั้นมีโอกาสในการเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้เยอะกว่า ซึ่งขอแนะนำให้ผู้กู้เลือกอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดกับเงื่อนไขที่ดีที่สุด หากไม่มั่นใจว่าระหว่างรีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นจะเลือกอันไหนดี สามารถปรึกษากับธนาคารที่ทำการกู้อยู่เดิมก่อนได้ เพื่อทำการอัตราเปรียบเทียบดอกเบี้ยของ รีเทนชั่น ก่อนทำการ รีไฟแนนซ์ และถ้าจะเลือกการรีไฟแนนซ์ ควรศึกษาเรื่องการลดภาระผ่อนบ้านรวมถึงพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์ เพื่อให้ได้วิธีที่คุ้มค่าและดีที่สุด

 

สรุปบทความ ไม่ว่าใครต่างก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่เพราะการผ่อนบ้านนั้นจะทำให้เรากลายเป็นหนี้สินในระยะยาว ผู้กู้จึงควรมีการวางแผนการเงินให้ดี เพื่อความสบายใจในการผ่อนบ้านที่ไม่หนักเกินไป และไม่ว่าระหว่างรีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นคุณจะเลือกแบบไหน เราก็เชื่อว่าคุณจะสามารถเลือกทางเดินที่เหมาะสมกับตัวเอง และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เป็นอย่างดี


ข่าวและบทความอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบายการใช้คุกกี้
บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ ให้สามารถเข้าถึงง่าย สะดวกในการใช้งาน และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การกด “ยอมรับ” ถือว่าคุณได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ ตามนโยบายคุกกี้ของบริษัท
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (นโยบายการใช้คุกกี้)