เมื่อทำการผ่อนบ้านจากธนาคารได้สักระยะหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการ รีไฟแนนซ์บ้าน นับว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ มาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กันเลย
คนส่วนใหญ่ทำการกู้สินเชื่อบ้าน เพื่อที่จะได้ครอบครองบ้านดังใจหวัง แม้ว่าเวลาผ่านไปต้องรับภาระหนักในการผ่อนบ้านก็ตาม ใครที่กำลังหาหนทางในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นสิ่งที่สำคัญ อัพเดตการรีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์ การผ่อนบ้านกับธนาคารใดดีที่สุด รวมไปถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับ mrr คืออะไร อ่านได้จากบทความนี้
สารบัญ
ภาพถ่ายโดย Nataliya Vaitkevich: https://www.pexels.com/th-th/photo/6863515/
ในการกู้ซื้อบ้านนั้นจะมีสิ่งหนึ่งที่ติดมาด้วยก็คือ “ดอกเบี้ย” โดยดอกเบี้ยนั้นจะไม่ตายตัว และเมื่อดอกเบี้ยขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุให้ต้องทำการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อที่จะลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง และที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่ใครต่างก็ต้องการรีไฟแนนซ์กัน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูประเด็นต่างๆ กันเลยดีกว่า
ภาพถ่ายโดย Pavel Danilyuk: https://www.pexels.com/th-th/photo/7937686/
การรีไฟแนนซ์บ้าน จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงระยะเวลา ช่วงแรกจะเป็นช่วงระยะเวลาในการประเมินราคาบ้าน เพื่อพิจารณาขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ต่อมาเป็นช่วงพิจารณาคุณสมบัติและตรวจสอบเอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งทั้ง 2 ขั้นตอนรวมกันจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันโดยประมาณ หรืออาจมาก-น้อยกว่าขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการพิจารณาของธนาคารแต่ละสาขา
1. ทำการติดต่อธนาคารเดิม เพื่อสรุปรายการยอดหนี้สินเชื่อบ้าน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับธนาคารนั้น ๆ ที่คุณทำธุรกรรมด้วย หรือไม่มีค่าใช่จ่ายสำหรับบางธนราคาร
2. เมื่อติดต่อธนาคารเดิมเสร็จแล้ว จะได้รับเอกสารรายการยอดหนี้ จากนั้นให้นำไปยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ แต่ถ้าเกิดพิจรณาจากธนาคารเดิมแล้ว มีโปรโมชั่นที่คุ้มกว่าธนาคารใหม่ ก็สามารถยื่นกับธนาคารเดิมได้เลย
3. การรีไฟแนนซ์จะมีขั้นตอนเหมือนเดิมกับตอนที่เคยกู้บ้านมา เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินบ้านหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เราต้องการมารีไฟแนนซ์ เพื่อพิจารณาอนุมัติ
4. เมื่อทำการประเมินเสร็จแล้ว รอฟังผลอนุมัติจากการพิจารณา
5. เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ให้ทำการติดต่อธนาคารเดิม เพื่อรับเอกสารไถ่ถอน และนัดวันไปไถ่ถอนบ้านที่ สำนักงานที่ดิน โดยธนาคารจะคิดยอดที่ต้องจ่ายเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ยนับจนถึงวันไถ่ถอน
6. ติดต่อธนาคารใหม่เพื่อทำสัญญาสินเชื่อใหม่ ทำการโอนบ้านที่ใช้จำนอง และต้องนัดมาทั้ง 2 ธนาคารมาภายในวันเดียวกัน เพื่อทำการชำระหนี้
7. เมื่อทำการชำระหนี้แล้ว ให้ไปดำเนินการต่อที่สำนักงานที่ดิน เพื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่จากทั้ง 2 ธนาคารด้วย
8.เมื่อได้รับโฉนดที่ดินจากสำนักงานที่ดินแล้ว ให้มอบกับเจ้าหน้าที่จากธนาคารใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน
เปรียบเทียบแต่ละธนาคาร ดังนี้
ธนาคาร |
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก |
ดอกเบี้ยที่แท้จริงต่ำสุดตลอดสัญญาต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา |
2.75% |
3.40% |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย |
2.69% |
4.470% |
ธนาคารออมสิน |
3.33% |
5.67% |
ธนาคารกสิกรไทย |
3.54% |
4.86% |
ธนาคารทหารไทย |
3.60% |
4.40% |
ธนาคารธนชาต |
4.39% |
4.89% |
ธนาคารกรุงไทย |
2.53% |
3.95% |
เราสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบกำหนดสัญญา เพียงแต่การรีไฟแนนซ์บ้านก่อนกำหนดจะต้องเสียค่าปรับ หากไม่อยากเสียค่าปรับในการรีไฟแนนซ์บ้าน จะต้องทำหลังจากพ้นสัญญากำหนด 3 ปีโดยส่วนใหญ่
ภาพถ่ายโดย Karolina Grabowska: https://www.pexels.com/th-th/photo/faceless-5650025/
ถ้าจะพูดให้ถูก ดอกเบี้ยบ้านจะขึ้นทุก ๆ ช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ดอกเบี้ย 1% สำหรับปีที่ 1-2 ดอกเบี้ยขึ้นเป็น 2% ปีที่ 3-4 และ 3% สำหรับปีที่ 5-6 ซึ่งมีทั้งดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดสัญญา และเป็นดอกเบี้ยลอยตัวขึ้นในปีถัดไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารกำหนด
สำหรับคนที่กำลังผ่อนบ้านหรือคอนโดเป็นระยะเวลาเกิน 3 ปี จะสามารถทำการรีไฟแนนซ์เพิ่มวงเงินได้ มันคือการลดภาระดอกเบี้ย และลดระยะเวลาผ่อนให้เร็วยิ่งขึ้น โดยการย้ายสินเชื่อบ้านที่กู้จากธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยได้ถูกกว่าเดิม
ภาพถ่ายโดย Pixabay: https://www.pexels.com/th-th/photo/280221/
1. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินสินเชื่ออาจจะ 0.025% ของวงเงินกู้ หรือขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารกำหนด
2. ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาหลักทรัพย์เพื่อพิจารณาอนุมัติรีไฟแนนซ์ 3,000 บาทโดยประมาณ
3. ค่าใช้จ่ายสำหรับดอกเบี้ยประกันอัคคีภัย โดยปกติต้องทำทุก ๆ 1-3 ปี
4. ค่าใช้จ่ายอากรแสตมป์ประมาณ 0.05% ของวงเงินกู้
5. ค่าใช้จ่ายในการจดจำนอง ให้กรมที่ดิน 1% ของมูลค่าจำนอง
6. ค่าเบี้ยประกัน MRTA และ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ อาจจะมีเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารกำหนด
ดอกเบี้ย MRR คือ อัตราดอกเบี้ยที่มาจากการกู้เงินธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้าย่อยชั้นดี ซึ่งเกิดจากเงินกู้ทุกประเภทที่มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ใช้ไนการทำธุรกรรมสินเชื่อมากที่สุดเลยก็ว่าได้
ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่อนบ้านกับธนาคาร หรือการลดอัตราดอกเบี้ยต่าง ๆ เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้น้อยลงได้ ใครที่มีความกังวลใจตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม เพื่อเพิ่มความสบายใจมากขึ้น แนะนำให้สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารต่าง ๆ ก่อนทำการรีไฟแนนซ์ใหม่ หากใครสนใจบ้านโครงการใหม่ ยูกฤษกรีนวิลล์ คลิก ที่นี่
#สินเชื่อบ้าน #รีไฟแนนซ์บ้าน #ผ่อนบ้าน
ข่าวและบทความอื่นๆ